วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แหล่งการเรียนรู้ประเภทวัฒนธรรม ประเพณี พื้นบ้าน


ครกหิน อ่างศิลา






        ลักษณะภูมิประเทศตำบลอ่างศิลา ประกอบด้วยหินอัดเป็นประเภทหินแกรนิตและหินทราย หินแกรนิตที่พบแทรกตัวขึ้นมาสลับระหว่างหินชันซึ่งพบมากตามแหล่งที่เป็นเขา ติดกับฝั่งทะเล และจากการที่มีหินแกรนิตซึ่งมีสีขาวนวล, สีเหลืองอ่อนและมีความแข็งแกร่งจำนวนมากที่ตำบลอ่างศิลาทำให้เกิดอาชีพการท ครกหินและกลายเป็นสัญญลักษณ์ของหมู่บ้านชาวประมงอ่างศิลา
            สภาพหมู่บ้านตำบลอ่างศิลาเดิมเรียกว่า “อ่างหิน” เนื่อง จากมีอ่างหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านอาชีพที่สำคัญของชาวตำบลอ่างศิลา นอกจากการทำประมงทางทะเล ทอผ้าแล้วอาชีพที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ อาชีพแกะสลักหิน เมื่อกล่าวถึง “อ่างศิลา” สิ่ง แรกที่คนทั่วไปจะนึกถึงก็คือครกหิน เพราะครกหินเป็นสัญญลักษณ์ของสินค้าพื้นเมือง ที่นำชื่อเสียงมาให้แก่ชาวตำบลอ่างศิลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเนื่องจาก ครกหินอ่างศิลามีจุดเด่นอยู่ที่หินมีความแข็งแกร่งตำแล้วไม่เป็นทรายและมีสี ขาวนวลหรือเหลืองอ่อนนอกจากการทำครกหินแล้วชาวตำบลอ่างศิลายังนำหินมาแกะ สลักเป็นรูปต่าง ๆเช่นรูปเจ้าแม่กวนอิม พระพุทธรูป ซึ่งมีความสวยงามมาก
มีคนจีนอพยพและมาอาศัยอยู่ในตำบลอ่างศิลาซึ่งต้องการทำของต่าง ๆ เช่น อาหารขนมเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่มีส่วนผสมที่ทำมาจากข้าวแล้วนำมาบดให้ ละเอียดเป็นแป้ง คนจีนเหล่านั้นจึงหาวิธีที่จะนำหินมาทำโม่เพื่อโม่แป้งและเห็นว่าอ่างศิลามี หินที่เหมาะสมที่จะทำโม่ จึงสกัดหินมาเพื่อใช้ทำโม่ และเมื่อมีเศษหิน เหลือชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ไม่สามารถทำโม่ได้แล้วจึงลองนำมาทำครกหินดูเพื่อ ใช้ตำน้ำพริก และหรือบดของอื่น ๆจนกระทั่งกลายมาเป็นของใช้ประจำบ้านอย่างหนึ่งแต่เดิมครกที่ทำที่ตำบลอ่าง ศิลาจะไม่มีการซื้อขายครกกันในพื้นที่ของตำบลแต่จะนำไปส่งขายที่ กรุงเทพฯหรือ ต่างจังหวัด ดังนั้นชื่อเสียงของครกหินอ่างศิลาจึงเป็นที่รู้จักของชาว กรุงเทพฯและคนในจังหวัดอื่น ๆ เป็นอย่างดี
                        ต่อมาความต้องการสินค้าประเภทครกหินเพิ่มมากขึ้นอาชีพการทำครกหินก็มากขึ้น จนบ้านอ่างศิลา ได้ถูกสกัดหินนำมาใช้จนหินมีปริมาณเหลือน้อย ดังนั้น จึงนำหินจากต่างจังหวัดเข้ามาทำครกหินกันในตำบลอ่างศิลา รวมทั้งมีการปรับปรุงรูปแบบและมีเอกลักษณ์เป็นการเฉพาะตัวคือ “ครกหินอ่างศิลาจะต้องมีสองหู” เท่านั้น 


ขั้นตอนการทำและการผลิต



วัตถุดิบและส่วนประกอบ

1. หินแกรนิต 
2. สิ่ว
3. ไม้บรรทัด
4.ลิ่ม
5. ฆ้อน
6. เครื่องเจียร

ขั้นตอนการผลิต 
1. นำหินมาสกัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม กลึงให้เป็นรูปทรงครก
2. นำมาขัดด้วยกระดาษทรายให้ผิวเรียบ
3. เมื่อได้รูปทรงที่สวยงามแล้ว ทาแลคเกอร์เพื่อจำหน่าย




เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต

       หินที่นำมาสกัดต้องเป็นหินแกรนิต เช่นหินดำ หินเขียว เมื่อนำมาสกัดเป็นครกหิน นำไปใช้ไม่มีทราย ครกหินอ่างศิลาแท้ มี 2หู สกัดด้วยมือ

การเดินทาง




"มา เที่ยวชายหาดบางแสนจนสบายใจไปกับไก่ย่างเหลืองกรอบริมหาด ซัดข้าวหลามหวานมันอิ่มแปล้ไปแล้ว ถ้าพลังงานยังเหลือเฟือ นั่งรถต่อไปทางเขาสามมุข            พอรถผ่านพ้นชายหาดบางแสนไปซักพัก ผ่านพ้นไฟแดงใหญ่ไปอีกนิด จะเจอร้านขายผลิตภัณฑ์จากหินร้านใหญ่ ตั้งอยู่สองฝั่งข้างทาง ชื่อร้านเดียวกันว่า รุ่งเรืองศิลาทิพย์  ถ้ามาจากชายหาดบางแสน ฝั่งขวามือจะเห็นครกหินยักษ์ ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า มีข้อความเขียนไว้ว่า "ครกหินใหญ่ที่สุดในโลก" 

คลิปเพิ่มเติม


ที่มา : http://fusionstone.blogspot.com/

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แหล่งการเรียนรู้ประเภทธรรมชาติ

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว




ความเป็นมา

     สวนสัตว์เป็นสถานที่ที่มีความผูกพันกับคนไทยมานานกว่า 60 ปี แล้ว หากจะแตกต่างไปบ้าง ก็คือ จำนวนของสวนสัตว์ที่มีเพิ่มขึ้นในภูมิภาคของประเทศและการนำเสนองานบริการที่มีการ ผสมผสานความรู้ หลักวิชาการและศาสตร์ต่างๆ จนทำให้สวนสัตว์มีขีด ความสามารถในการใช้ ประโยชน์จากสังคมมากกว่าแต่ก่อน

สวนสัตว์ของรัฐให้เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและจิตใจของประชาชน ในด้านการนันทนาการและการเป็นแหล่งเรียนรู้แบบตลอดชีวิตและในความเป็นเลิศของ การเป็นมืออาชีพที่พัฒนาความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศจนสามารถนำมาซึ่ง รายได้จากนักท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาประเทศชาติ อย่างมีเกียรติเป็นที่ชื่นชมของคนทั่วไปการพัฒนาสวนสัตว์แบบบูรณาการ โดยยึดผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ สวนสัตว์ที่สวยงาม ร่มรื่น มีสัตว์ที่หลากหลายชนิด สามารถสื่อความหมายของธรรมชาติและชีวิต สัตว์ป่า เมื่อได้มาเยี่ยมชม จนเป็นที่ชื่นชอบและมาเที่ยวกัน ต้องใช้ทั้งเวลาและงบประมาณ จำนวนมาก บางครั้งอาจถึงชั่วอายุคนเราก็ว่าได้ ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญกับสวนสัตว์และมีการสร้างสวนสัตว์ใหม่ๆขึ้นมามากกว่า 1,000 แห่ง ในเอเซีย ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย โดยในปีหนึ่งๆ มีคนมาเที่ยวสวนสัตว์กันมากว่า 1 หน จนกล่าวได้ว่าสวนสัตว์กำลังจะเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคนเราไปแล้วการดำเนินงานให้บริการสังคมของสวนสัตว์กำลังผ่านเข้าสู่รอยต่อของวิวัฒนาการของสวนสัตว์ สมัยใหม่อีกช่วงหนึ่งโดยสามารถสัมผัสได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการหล่อหลอมเข้ากันไว้ด้วยวัฒนธรรมใหม่และการเปลี่ยน แปลงของวิถีการดำเนินชีวิตของสังคม ทั้งทางด้านพฤติกรรม ค่านิยมระบบการปฏิรูปการศึกษา เทคโนโลยี และความต้องการที่จะปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมใน แบบยั่งยืนการดำเนินงานของสวนสัตว์เปิดเขาเขียวยังคงดำเนินการตามนโยบายหลัก 4 ประการ คือ การอนุรักษ์สัตว์ป่า การให้การศึกษา การค้นคว้าวิจัยและการเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มาโดยตลอด ในปัจจุบันงานทุกด้านเป็นกลไกสำคัญสนับสนุนซึ่งกันและกัน กล่าวได้ว่ามีการพัฒนา เป็นรูปธรรม ชัดเจนมากขึ้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางสังคมและทำให้สวนสัตว์มีคุณค่าจนเป็นที่ยอมรับ


ลักษณะการดำเนินงาน

ลักษณะการดำเนินการของสวนสัตว์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1. ส่วนแสดง คือ ส่วนหรือพื้นที่ที่ใช้เลี้ยงสัตว์ป่านานาชนิด ลักษณะคอกสัตว์แต่ละชนิด จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมโดยให้มีสภาพที่ได้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดเพราะส่วนที่สวนสัตว์์ จะเปิดให้ผู้เที่ยวชมสามารถเดินชมภายในได้อย่างใกล้ชิด เช่น สวนกวาง กรงนกใหญ่และบริเวณเลี้ยงสัตว์อื่นๆ พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่

2. ส่วนศึกษาและวิจัย คือส่วนหรือพื้นที่บริเวณกว้าง เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ที่มีอยู่เดิม สภาพพื้นที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และฟื้นฟูของป่าหลายประเภทเพื่อจะให้เป็นแหล่งอาศัย แหล่งอาหารของสัตว์ป่าในธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ทางด้านงานวิจัยจะเป็นพื้นที่โครงการ
ศึกษาวิจัย และขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายากและสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์อันได้แก่ โครงการนกกาบบัว - นกกระทุงคืน สู่ธรรมชาติ โครงการฝึกสัตว์เพื่อนำกลับสู่ธรรมชาติ โครงการศึกษา - วิจัยพันธุ์ไม้ป่า เป็นต้น ดังนั้นบริเวณนี้จะไม่อนุญาต ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาเที่ยวชม มีพื้นที่รวมประมาณ 3,500 ไร่
3. ส่วนบริการ เป็นพื้นที่นอกเหนือจากส่วนแสดงและส่วนศึกษาวิจัย จัดไว้ให้บริการผู้เที่ยวชม โดยมีส่วนของสถานที่สำหรับพักผ่อน รับประทานอาหารกลางแจ้ง อ่างเก็บน้ำ ศูนย์ให้การศึกษาสวนพฤกษศาสตร์ ศาลาเอนกประสงค์ พื้นที่รวมทั้งสิ้น ประมาณ 500 ไร่ปัจจุบันสวนสัตว์เปิดเขาเขียวตั้งอยู่เลขที่ 235 หมู่ที่ 7 ต . บางพระ อ . ศรีราชา จ . ชลบุรี สังกัด องค์การ สวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีสัตว์อยู่ในความดูแล มากกว่า 300 ชนิด จำนวนมากกว่า 8,000 ตัว เป็นสถานที่พักผ่อน หย่อนใจและให้การศึกษาที่ใกล้เมืองและ ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญบริเวณเมืองพัทยาและบางแสน





ค่าเข้าชม

ผู้
ผู้ใหญ่
  70 บาท
เด็ก
15 บาท
นักเรียนในเครื่องแบบ
15 บาท
นักเรียนอนุบาล-ประถม
15 บาท
นักเรียนมัธยมต้น-มัธยมปลาย
15 บาท
ปวช-มหาวิทยาลัย
30 บาท
ทหาร-ตำรวจในเครื่องแบบ
30 บาท
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ
ภิกษุ สามเณร
ฟรี
รถจักรยานยนต์
10 บาท
รถยนต์
50 บาท
รถบัส
60 บาท